ดราม่าระอุสังคมจีน นักศึกษาสาวถูกไล่ออก หลังคลิปหลุดแฉสัมพันธ์ชายต่างชาติ แม้มีแฟนอยู่แล้ว – มหาวิทยาลัยชี้ “บ่อนทำลายศักดิ์ศรีชาติ” ทนาย-ชาวเน็ตจี้ถาม ลงโทษเกินไปหรือไม่?

รักฉาบฉวยพาซวย! นักศึกษาจีนเซ่นคลิปหลุด โดนไล่ออกเพราะหนุ่มยูเครนโพสต์คลิปแฉ

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 เว็บไซต์ Sohu ของจีน รายงานกรณีอื้อฉาวที่กลายเป็นประเด็นระดับประเทศ เมื่อมหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคต้าเหลียน (Dalian Polytechnic University) ออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ยืนยันการลงโทษนักศึกษาหญิงรายหนึ่ง นามสกุล “หลี่” ด้วยการไล่ออกจากมหาวิทยาลัย หลังจากมีคลิปวิดีโอหลุดเผยให้เห็นว่าเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับชายชาวต่างชาติ โดยพบกันเพียงไม่นาน ก่อนจะตกเป็นข่าวฉาวไปทั่วโลกออนไลน์จีน

จุดเริ่มต้นของคลิปฉาว

เหตุการณ์ต้นเรื่องเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2567 โดยชายชาวยูเครนนามว่า “เซอุส” (Zeus) วัย 37 ปี ซึ่งเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตที่เดินทางมาแข่งขันในประเทศจีน ได้โพสต์คลิปส่วนตัวลงในกลุ่ม Telegram คลิปดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเขาอยู่กับหญิงสาวชาวจีนในห้องพัก โดยทั้งคู่มีความใกล้ชิดอย่างเห็นได้ชัด และในคลิปยังเห็นใบหน้าทั้งสองชัดเจน

สิ่งที่จุดกระแสเดือดไม่ใช่เพียงแค่พฤติกรรมส่วนตัวของนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังมาจากคำกล่าวโอ้อวดของชายชาวต่างชาติที่ระบุว่าเขาสามารถ “พิชิตใจสาวจีน” ได้ภายในเวลาอันสั้น ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน ส่งผลให้คลิปดังกล่าวถูกแชร์ต่อในโลกออนไลน์อย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงวิจารณ์ถึงพฤติกรรมของทั้งคู่ โดยเฉพาะนักศึกษาหญิง ซึ่งถูกกล่าวหาว่า “ทำให้ภาพลักษณ์ของหญิงจีนเสียหาย” ในสายตานานาชาติ

ปมศีลธรรม-ความสัมพันธ์ซ้อน จุดไฟให้ร้อนแรงขึ้น

สถานการณ์ยิ่งลุกลามเมื่อมีข้อมูลเผยว่า นักศึกษาหญิงรายดังกล่าวมีแฟนอยู่แล้ว และในขณะเดียวกัน ฝ่ายชายก็ถูกสันนิษฐานว่าอาจมีครอบครัวด้วย แม้เจ้าตัวจะปฏิเสธภายหลัง ความสัมพันธ์ฉาบฉวยที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ กลายเป็นกระแสโจมตีอย่างรุนแรงในโลกโซเชียล มีทั้งคำตำหนิด้านศีลธรรม ค่านิยม และความเหมาะสม โดยเฉพาะในสังคมจีนที่ยังยึดถือคุณธรรมและจริยธรรมในชีวิตนักศึกษาเป็นอย่างมาก

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ ไล่ออกนักศึกษาหญิง

ในเดือนกรกฎาคม 2568 มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคต้าเหลียนออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ ประกาศไล่นักศึกษาหญิงนามสกุลหลี่ออกจากสถาบัน โดยระบุว่าเธอมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างร้ายแรง เป็นการละเมิดข้อบังคับของมหาวิทยาลัย และส่งผลกระทบด้านลบต่อชื่อเสียงของทั้งสถาบันและประเทศ

แถลงการณ์ยังระบุว่า การมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับชาวต่างชาติในลักษณะที่ขาดความยั้งคิด ถือเป็นการ “ทำลายเกียรติภูมิของชาติ” และละเมิดจริยธรรมของนักศึกษาอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยได้ส่งหนังสือแจ้งโทษไปยังนักศึกษาแล้วตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะมีการประกาศอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม

เสียงวิจารณ์หลั่งไหล: ลงโทษเกินกว่าเหตุหรือไม่?

หลังคำสั่งลงโทษปรากฏต่อสาธารณะ สังคมจีนเกิดกระแสถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับการไล่ออก โดยมองว่าเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของสถาบัน และฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นการใช้มาตรการรุนแรงเกินไปในเรื่องส่วนตัว

หนึ่งในเสียงวิจารณ์สำคัญมาจาก “ฝู่เจี้ยน” ทนายความชื่อดังและหัวหน้าสำนักงานกฎหมายเจ๋อจิน มณฑลเหอหนาน ที่แสดงความเห็นว่า แม้มหาวิทยาลัยมีสิทธิในการควบคุมพฤติกรรมนักศึกษา แต่กรณีนี้มีประเด็นขัดแย้งที่สำคัญ 3 ประเด็น ได้แก่

1. ขอบเขตของสถาบันการศึกษา: มหาวิทยาลัยมีสิทธิแค่ไหนในการตัดสินพฤติกรรมส่วนตัวของนักศึกษา หากไม่ได้ผิดกฎหมาย?
2. ความเหมาะสมของบทลงโทษ: การไล่ออกถือว่าเกินกว่าเหตุหรือไม่ แม้จะเป็นพฤติกรรมที่สังคมมองว่าไม่เหมาะสม
3. ความไม่เท่าเทียมในการรับผิดชอบ: ฝ่ายชายเป็นผู้เผยแพร่คลิปซึ่งอาจเข้าข่ายละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แต่กลับไม่ถูกดำเนินคดีหรือบทลงโทษใด ๆ ในขณะที่นักศึกษาหญิงต้องเผชิญผลกระทบเพียงฝ่ายเดียว

นอกจากนี้ ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่า ระเบียบหลายข้อของมหาวิทยาลัยอาจไม่สอดคล้องกับสังคมยุคใหม่ เช่น การห้ามนักศึกษามีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่งงาน หรือห้ามดูสื่อลามกอนาจาร ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นแนวคิดหัวโบราณ

ฝ่ายชายออกมาชี้แจง ยืนยัน “ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงมีแฟน”

หลังจากเรื่องราวกลายเป็นข่าวใหญ่ “เซอุส” เจ้าของคลิป ได้ออกมาชี้แจงผ่านบัญชี X (Twitter) ว่า เขาโพสต์คลิปดังกล่าวเมื่อ 6 เดือนก่อน โดยเป็นเพียงภาพที่เขาถ่ายไว้ในช่วงเวลาที่พบหญิงสาวในเซี่ยงไฮ้ และยืนยันว่าไม่มีเนื้อหาอนาจาร หรือเจตนาไม่เหมาะสมใด ๆ

เขาระบุว่า รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น และได้ลบคลิปทิ้งไปแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่ได้แต่งงานและไม่มีครอบครัวตามที่เป็นข่าวลือ นอกจากนี้ยังชี้แจงว่า ตนไม่เคยพูดว่าสาวจีน “ง่าย” และโทษว่าต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดมาจากการที่ฝ่ายหญิงไม่เคยบอกว่าเธอมีแฟนอยู่แล้ว

บทสรุป: ศีลธรรม เสรีภาพ และมาตรฐานที่ไม่เท่าเทียม

กรณีนี้กลายเป็นตัวอย่างสะท้อนความขัดแย้งระหว่างจริยธรรมแบบดั้งเดิม กับเสรีภาพในโลกยุคใหม่ ขณะเดียวกัน ยังเปิดคำถามเรื่องความเป็นธรรมทางเพศ และมาตรฐานสองชั้นในสังคม หากฝ่ายชายเป็นผู้กระทำและเปิดเผย แต่กลับไม่ถูกลงโทษ ในขณะที่ฝ่ายหญิงต้องเผชิญผลกระทบร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดอนาคตทางการศึกษา

สังคมจีนจะเดินต่อไปอย่างไรท่ามกลางแรงตึงระหว่าง “ศักดิ์ศรีของชาติ” กับ “สิทธิเสรีภาพของปัจเจกบุคคล” คำถามนี้อาจยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะหาคำตอบได้อย่างเป็นธรรมสำหรับทุกฝ่าย